วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Le Mont-Saint-Michel

มง-แซ็ง-มีแชล (ฝรั่งเศส: Le Mont-Saint-Michel) คือวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลชายฝั่งตะวันตก บริเวณจังหวัดม็องช์ แคว้นบัส-นอร์ม็องดีของประเทศฝรั่งเศส ได้รับประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2522 ภายใต้ชื่อ มง-แซ็ง-มีแชลและอ่าว

ในปีหนึ่งจะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนมง-แซ็ง-มีแชลกว่า 3 ล้าน 2 แสนคน ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับที่ 3 ของประเทศฝรั่งเศสรองลงมาจากหอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซาย
ตัวเกาะอันเป็นที่ตั้งของวิหารนั้นเป็นหินแกรนิต โดยมีเส้นรอบวงเกาะประมาณ 960 เมตร และสูง 92 เมตร แล้วถ้าบวกกับความสูงของตัววิหารนั้นแล้วก็จะมีความสูงถึง 155 แมตร ถือเป็นปราการธรรมชาติตั้งแต่สมัยยุคกลาง โดยตั้งชื่อตามวิหารที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขานั่นเอง บนยอดวิหารเป็นรูปปั้นทองของอัครทูตสวรรค์มีคาเอล (นักบุญมิคาเอล) สร้างโดยเอมานูแอล เฟรมีเย (Emmanuel Frémiet)
ในปัจจุบัน มีประชากรอยู่อาศัยบนเกาะ 44 คน จากสถิติ ณ ปีค.ศ.2009

ประวัติ
ก่อนที่จะมีการสถาปนาราชวงศ์แรกของฝรั่งเศสขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8 เกาะนี้เคยถูกเรียกว่า มงตงบ์ (Mont Tombe) และตามตำนาน วิหารที่อยู่บนเกาะนี้ถูกสร้างโดยการแนะนำของเทวดามีแชล ที่ได้เข้าฝันนักบุญโอแบร์ บิชอปแห่งมาฟร็องช์เมื่อปี พ.ศ. 1251 แต่เขาก็มิได้ปฏิบัติตาม เนื่องจากนึกว่าปีศาจได้มาเข้าฝัน เขาจึงได้เพิกเฉยไป จนมาถึงการฝันครั้งที่ 3 มีแชลได้ใช้นิ้วของเขาจิ้มที่หัวของโอแบร์ และเมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาก็ได้ตะลึงว่ามีรูอยู่บนหัวจริง ๆ จากนั้นมาเขาจึงตัดสินใจสร้างวิหารบนยอดเขา
ในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส เนื่องจากไม่มีพระจำพรรษา ตัววิหารได้ถูกเปลี่ยนเป็นที่คุมขังนักโทษสำคัญการเมือง จนกระทั่งวิกตอร์ อูโก ได้มีบทบาทสำคัญในการรณรงค์เพื่อคืนความเป็นสิ่งก่อสร้างสำคัญทางสถาปัตยกรรมของชาติ และในที่สุดได้มีการยกเลิกการเป็นเรือนจำ และได้ถูกเปลี่ยนสถานะเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในปีค.ศ. 1874
ในปีค.ศ.1979 ได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรม โดยองค์การยูเนสโก

การเดินทาง
        ในอดีตการเดินทางไปยังมง-แซ็ง-มีแชล จะเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยถนนที่สามารถเดินทางได้ในช่วงน้ำลงเท่านั้น เนื่องจากระดับน้ำปกติจะท่วมและปิดกั้นผิวถนน โดยนักท่องเที่ยวและนักแสวงบุญ สามารถจอดรถได้ในช่วงที่น้ำลง และเนื่องจากมีถนนที่ตัดเชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ ทำให้ทิศทางไหลของน้ำเกิดการผันแปร และเป็นผลทำให้ระยะทางระหว่างเกาะ กับแผ่นดินใหญ่นั้นสั้นลง อันเกิดจากการสะสมของดินตะกอนปากแม่น้ำ จนกระทั่งในปีค.ศ. 2006 นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้เริ่มโครงการเขื่อนกั้นน้ำ โดยจุดประสงค์หลักเพื่อช่วยคืนสภาพความเป็นเกาะให้กับมง-แซ็ง-มีแชล โดยอาศัยการไหลของน้ำเพื่อชะล้าง และลดการสะสมของดินตะกอน โดยคาดว่าโครงการจะสำเร็จช่วงปีค.ศ.2015 ส่วนหนึ่งของโครงการคือสร้างเขื่อนกั้นน้ำ โดย ณ ปัจจุบันเสร็จสิ้นแล้ว รวมถึงการเปลี่ยนถนนที่เชื่อมกับแผ่นดินเป็นสะพาน เพื่อให้น้ำสามารถหมุนเวียนได้โดยรอบเกาะ รวมถึงการย้ายที่จอดรถไปยังแผ่นดินใหญ่ โดยนักท่องเที่ยวจะสามารถจอดรถได้บนฝั่ง โดยจะมีรถรับส่งบริการจากจุดจอดรถถึงบริเวณเกาะ
Mont Saint Michel bordercropped.jpg



________________________________________________________________

English 
Le Mont-Saint-Michel (pronounced: [lə mɔ̃ sɛ̃ mi.ʃɛl]; Norman: Mont Saint Miché, Breton: Menez Mikael ar Mor, English: Saint Michael's Mount) is an island commune in Normandy, France. It is located about one kilometre (0.6 miles) off the country's northwestern coast, at the mouth of the Couesnon River near Avranches and is 100 hectares (247 acres) in size. As of 2009, the island has a population of 44.[1]

The island has held strategic fortifications since ancient times and since the 8th century AD has been the seat of the monastery from which it draws its name. The structural composition of the town exemplifies the feudal society that constructed it: on top, God, the abbey and monastery; below, the great halls; then stores and housing; and at the bottom, outside the walls, houses for fishermen and farmers.

The commune's position — on an island just 600 metres from land — made it accessible at low tide to the many pilgrims to its abbey, but defensible as an incoming tide stranded, drove off, or drowned would-be assailants. The Mont remained unconquered during the Hundred Years' War; a small garrison fended off a full attack by the English in 1433.[2] The reverse benefits of its natural defence were not lost on Louis XI, who turned the Mont into a prison. Thereafter the abbey began to be used more regularly as a jail during the Ancien Régime.

One of France's most recognizable landmarks, visited by more than 3 million people each year, Mont Saint-Michel and its bay are on the UNESCO list of World Heritage Sites.[3] Over 60 buildings within the commune are protected in France as monuments historiques.[4]

วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เดือนในภาษาฝรั่งเศส

Les mois de l’année
เดือนของปี
Janvier
มกราคม
Février
กุมภาพันธ์
Mars
มีนาคม
Avril
เมษายน
Mai
พฤษภาคม
Juin
มิถุนายน
Juillet
กรกฎาคม
Août
สิงหาคม
Septembre
กันยายน
Octobre
ตุลาคม
Novembre
พฤศจิกายน
Décembre
ธันวาคม

วันในภาษาฝรั่งเศส

Les jours de la semaine
วันของสัปดาห์
Lundi
วันจันทร์
Mardi
วันอังคาร
Mercredi
วันพุธ
Jeudi
วันพฤหัสบดี
Vendredi
วันศุกร์
Samedi
วันเสาร์
Dimanche
วันอาทิตย์
Hier
เมื่อวาน
Aujourd’hui
วันนี้
Demain
พรุ่งนี้

สกุลเงินประเทศฝรั่งเศส

สกุลเงินประเทศฝรั่งเศส

      ฝรั่งเศสใช้สกุลเงินยูโร (EUR) เช่นเดียวกับประเทศในแถบยุโรปอื่นๆ โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 ยูโรแลกได้ประมาณ 40 บาท โดยสามารถแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลยูโรได้ที่ธนาคารต่างๆจากเมืองไทย สนามบิน หรือร้านแลกเปลี่ยนเงินตราของเอกชน หากต้องการแลกเปลี่ยนเงินตราในฝรั่งเศสสามารถทำได้ที่ธนาคาร โดยในปารีสธนาคารส่วนใหญ่จะเปิดทำการในวันจันทร์ –ศุกร์ ตั้งแต่ 10.00 -17.00 น. นอกจากนี้ยังสามารถเบิกเงินสดได้จากตู้กดเงิน (AIM) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตธุรกิจ และย่านการค้าต่างๆ

อาหารฝรั่งเศส ที่ได้พอเมื่อไปเที่ยวฝรั่งเศสต้องรับประทาน

1. Quiche 
คีช เป็นอาหารจานอบชนิดหนึ่งโดยมีส่วนประกอบหลักคือ ไข่ นม หรือ ครีม ถึงแม้ว่าคีชจะมีลักษณะคล้ายพายแต่คีชถูกจัดเป็นอาหารคาว โดยในคีชอาจมีส่วนประกอบอื่นเช่น เนื้อสัตว์ ผัก เนยแข็ง ได้ ถึงแม้ว่าคีชจะมีส่วนประกอบหลายอย่างคล้ายอาหารประเภทพาสตา แต่ไม่ถูกจัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของพาสตา
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คีช
2. Ratatouille 
ราทาทุย หรือ แรททาทูอี เป็นอาหารพื้นเมืองของฝรั่งเศส โดยมีลักษณะเป็นสตูว์ผัก มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Nice ทานตอนใต้ของฝรั่งเศส อาหารชนิดนี้มีชื่อเต็มว่า ratatouille ni?oise คำว่า ratatouille มาจากภาษาอ็อกซิตันว่า "ratatolha" ราทาทุยปัจจุบันพบเห็นได้ที่ Occitan Proven?a และ Ni?a โดยมักจะทำในหน้าร้อนโดยใช้ผักในฤดูร้อน Ratatolha de Ni?a สูตรดั้งเดิมนั้นจะใช้เพียงแค่ ซุชีนี่, มะเขือเทศ, พริกหยวกแดงและเขียว, หัวหอม, และกระเทียม ราทาทุยในปัจจุบันจะมีการใส่มะเขือลงไปในส่วนผสมด้วย ปกติราทาทุยจะเสิร์ฟเป็นอาหารข้างเคียงกับอาหารหลัก หรือบางครั้งก็เสิร์ฟเป็นอาหารหลักบนโต๊ะอาหาร
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ratatouille อาหาร
3. soufflé 
ซูเฟล เป็นเค้กชนิดหนึ่ง เนื้อเบา ฟูนุ่ม ใช้เสิร์ฟเป็นของหวานหรืออาหารว่าง ซูเฟลมีหลายแบบเช่น ซูเฟลซอสปู ซูเฟลช็อกโกแลต
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ soufflé
4. French Wine 
ไวน์ของประเทศฝรั่งเศสนั้น เป็นที่นิยมมาก ซึ่งได้มีการจัดให้เป็นไวน์ที่มีรสชาติดีที่สุดในโลกเลยทีเดียว ในฝรั่งเศสมีแหล่งผลิตไวน์อยู่ทั่วประเทศ ซึ่งมีการผลิตไวน์มากเป็นอันดับที่สองของโลกรองจาก ประเทศ สเปน เท่านั้น 
ไวน์ที่ดีนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้ดื่มเอง ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละคน แต่โดยการแนะนำของผู้คนจำนวนมากแล้ว ไวน์จาก 
ประเทศฝรั่งเศสเป็นถิ่นกำเนิดไวน์ชั้น เยี่ยม อาทิ แชมเปญ บอร์โดซ์ เบอร์กันดี และไม่มีประทศใดในโลกที่สามารถผลิตไวน์ได้หลากหลายชนิดเท่าฝรั่งเศส ไวน์เป็นสัญญลักษณ์เฉพาะของงานเลี้ยง วิธีการและขั้นตอนในการดื่มไวน์จะเป็นตัวช่วยเพิ่มคุณค่าและรสชาติที่ดีของไวน์ได้ การชิม ไวน์ ของ ฝรั่งเศสนั้น เนื่องจากเขตพื้นที่ที่มีการปลูกองุ่นในประเทศฝรั่งเศสครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล จากเหนือจรดใต้ จากตะวันออกจรดตะวันตก ระยะห่างนี้ก่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างเขตพื้นที่ ซึ่งมีผลต่อลักษณะของดินที่ใช้ปลูกองุ่น ทิศทางที่หันเข้าหาดวงอาทิตย์และภูมิอากาศ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดไวน์ที่ได้จากเขตเพาะปลูกองุ่น จึงมีลักษณะเฉพาะตัวที่ต่างกันออกไป ประเทศฝรั่งเศสให้ผลผลิตไวน์ นานาชนิดแก่นักชิมไวน์ทั้งหลาย คือมีไวน์ appellations กว่า 400 ชนิด และแว็งเดอเปยี อีกมากมายหลายชนิดด้วยกัน ซึ่งมีสีสัน รสชาด และลักษณะเฉพาะตัวให้เลือกตามรสนิยม และความพอใจอย่างเหลือเฟือ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ French Wine