มง-แซ็ง-มีแชล (ฝรั่งเศส: Le Mont-Saint-Michel) คือวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลชายฝั่งตะวันตก บริเวณจังหวัดม็องช์ แคว้นบัส-นอร์ม็องดีของประเทศฝรั่งเศส ได้รับประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2522 ภายใต้ชื่อ มง-แซ็ง-มีแชลและอ่าว
ในปีหนึ่งจะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนมง-แซ็ง-มีแชลกว่า 3 ล้าน 2 แสนคน ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับที่ 3 ของประเทศฝรั่งเศสรองลงมาจากหอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซาย
ตัวเกาะอันเป็นที่ตั้งของวิหารนั้นเป็นหินแกรนิต โดยมีเส้นรอบวงเกาะประมาณ 960 เมตร และสูง 92 เมตร แล้วถ้าบวกกับความสูงของตัววิหารนั้นแล้วก็จะมีความสูงถึง 155 แมตร ถือเป็นปราการธรรมชาติตั้งแต่สมัยยุคกลาง โดยตั้งชื่อตามวิหารที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขานั่นเอง บนยอดวิหารเป็นรูปปั้นทองของอัครทูตสวรรค์มีคาเอล (นักบุญมิคาเอล) สร้างโดยเอมานูแอล เฟรมีเย (Emmanuel Frémiet)
ในปัจจุบัน มีประชากรอยู่อาศัยบนเกาะ 44 คน จากสถิติ ณ ปีค.ศ.2009
ประวัติ
ก่อนที่จะมีการสถาปนาราชวงศ์แรกของฝรั่งเศสขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8 เกาะนี้เคยถูกเรียกว่า มงตงบ์ (Mont Tombe) และตามตำนาน วิหารที่อยู่บนเกาะนี้ถูกสร้างโดยการแนะนำของเทวดามีแชล ที่ได้เข้าฝันนักบุญโอแบร์ บิชอปแห่งมาฟร็องช์เมื่อปี พ.ศ. 1251 แต่เขาก็มิได้ปฏิบัติตาม เนื่องจากนึกว่าปีศาจได้มาเข้าฝัน เขาจึงได้เพิกเฉยไป จนมาถึงการฝันครั้งที่ 3 มีแชลได้ใช้นิ้วของเขาจิ้มที่หัวของโอแบร์ และเมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาก็ได้ตะลึงว่ามีรูอยู่บนหัวจริง ๆ จากนั้นมาเขาจึงตัดสินใจสร้างวิหารบนยอดเขา
ในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส เนื่องจากไม่มีพระจำพรรษา ตัววิหารได้ถูกเปลี่ยนเป็นที่คุมขังนักโทษสำคัญการเมือง จนกระทั่งวิกตอร์ อูโก ได้มีบทบาทสำคัญในการรณรงค์เพื่อคืนความเป็นสิ่งก่อสร้างสำคัญทางสถาปัตยกรรมของชาติ และในที่สุดได้มีการยกเลิกการเป็นเรือนจำ และได้ถูกเปลี่ยนสถานะเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในปีค.ศ. 1874
ในปีค.ศ.1979 ได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรม โดยองค์การยูเนสโก
การเดินทาง
ในอดีตการเดินทางไปยังมง-แซ็ง-มีแชล จะเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยถนนที่สามารถเดินทางได้ในช่วงน้ำลงเท่านั้น เนื่องจากระดับน้ำปกติจะท่วมและปิดกั้นผิวถนน โดยนักท่องเที่ยวและนักแสวงบุญ สามารถจอดรถได้ในช่วงที่น้ำลง และเนื่องจากมีถนนที่ตัดเชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ ทำให้ทิศทางไหลของน้ำเกิดการผันแปร และเป็นผลทำให้ระยะทางระหว่างเกาะ กับแผ่นดินใหญ่นั้นสั้นลง อันเกิดจากการสะสมของดินตะกอนปากแม่น้ำ จนกระทั่งในปีค.ศ. 2006 นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้เริ่มโครงการเขื่อนกั้นน้ำ โดยจุดประสงค์หลักเพื่อช่วยคืนสภาพความเป็นเกาะให้กับมง-แซ็ง-มีแชล โดยอาศัยการไหลของน้ำเพื่อชะล้าง และลดการสะสมของดินตะกอน โดยคาดว่าโครงการจะสำเร็จช่วงปีค.ศ.2015 ส่วนหนึ่งของโครงการคือสร้างเขื่อนกั้นน้ำ โดย ณ ปัจจุบันเสร็จสิ้นแล้ว รวมถึงการเปลี่ยนถนนที่เชื่อมกับแผ่นดินเป็นสะพาน เพื่อให้น้ำสามารถหมุนเวียนได้โดยรอบเกาะ รวมถึงการย้ายที่จอดรถไปยังแผ่นดินใหญ่ โดยนักท่องเที่ยวจะสามารถจอดรถได้บนฝั่ง โดยจะมีรถรับส่งบริการจากจุดจอดรถถึงบริเวณเกาะ
________________________________________________________________
English
Le Mont-Saint-Michel (pronounced: [lə mɔ̃ sɛ̃ mi.ʃɛl]; Norman: Mont Saint Miché, Breton: Menez Mikael ar Mor, English: Saint Michael's Mount) is an island commune in Normandy, France. It is located about one kilometre (0.6 miles) off the country's northwestern coast, at the mouth of the Couesnon River near Avranches and is 100 hectares (247 acres) in size. As of 2009, the island has a population of 44.[1]
The island has held strategic fortifications since ancient times and since the 8th century AD has been the seat of the monastery from which it draws its name. The structural composition of the town exemplifies the feudal society that constructed it: on top, God, the abbey and monastery; below, the great halls; then stores and housing; and at the bottom, outside the walls, houses for fishermen and farmers.
The commune's position — on an island just 600 metres from land — made it accessible at low tide to the many pilgrims to its abbey, but defensible as an incoming tide stranded, drove off, or drowned would-be assailants. The Mont remained unconquered during the Hundred Years' War; a small garrison fended off a full attack by the English in 1433.[2] The reverse benefits of its natural defence were not lost on Louis XI, who turned the Mont into a prison. Thereafter the abbey began to be used more regularly as a jail during the Ancien Régime.
One of France's most recognizable landmarks, visited by more than 3 million people each year, Mont Saint-Michel and its bay are on the UNESCO list of World Heritage Sites.[3] Over 60 buildings within the commune are protected in France as monuments historiques.[4]